เป้าหมายหลัก

วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2557

พิธีชา

พิธืชา茶道 sadō 



             เช้าวันอาทิตย์ มีนัดกับครูป้อม ครูกลอย และครุยิ้มในเวลาแปดโมงครึ่งตามโปรแกรมเป็นเรื่องถอดบทการเรียนรู้ ทุกคนคิดว่าต้องเป็นเรื่องที่ชวนปวดหัวแน่นอน หลังรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยยังไม่ทันถึงแปดโมงต่างตรงดิ่งเข้าห้องทำงาน คว้าโน๊ตบุค เสียบปลั๊ก เข้าโปรแกรม Blogger .PLC แล้วก้อจิ้มกันใหญ่  เพราะงานเก่าของครูภรยังไม่เสร็จ ผมนั่งมองเห็นแล้วนึกชื่นชมอยู่ในใจทั้งๆที่เป็นวันอาทิตย์ วันครอบครัว วันพักผ่อน แต่ทุกคนกลับจดจ่อ(ครูใหญ่เรียกว่า มีสมาธิ) อยู่กับงาน (การบ้าน) ของครูภร คิดไงไม่รู้ หยิบโทรศัพท์เปิดโหมด VDO แล้วก้อถ่ายซะเลย 


ยอดเยี่ยมครับทุกคน นี่แหละครับครูแห่งศตวรรษใหม่ 

           ถึงเวลาแปดโมงครึ่งครูเอ๋มาบอกว่าครูป้อม ครูกลอย และครูยิ้มรออยู่ห้องประชุมเล็ก คอมฯไม่ต้องเอาขึ้นไป มองหน้ากันครู่หนึ่ง คิดว่าต้องจดบันทึกอย่างเดียว แต่พอเดินเข้าห้องประชุมความหอมโชยมา ความเย็นปะทะร่างกาย บรรยากาศสบายๆ ครูป้อมเชิญชวนให้นั่ง ครูกลอย ครูยิ้มเสริฟชาโดยส่งผ่านมาทีละคนพร้อมการไหว้รับขอบคุณจนครบ เป็นขั้นตอนแรกของการถอดแแบบเรียนที่น่าสนใจยิ่ง  บรรยากาศอยู่ในความสงบ ครูป้อมเชิญชวนจิบน้ำชา ก้อไม่กล้าเท่าไหร่นะครับตอนแรก ออกอาการเขินๆ ไงไม่รู้ ผ่านไปสักครู่ครูป้อมนำบทความของ "โจวชิงฉือ" ดารา ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวฮ่องกงมาอ่านด้วยน้ำเสียงนุ่มเบา ชวนฟัง ครั้งแรกก็ฟังไปเรื่อยๆ แต่ถึงตอนหนึ่งน้ำตาซึมครับ "ตั้งแต่ผมเป็นนักแสดงมา ครั้งนั้นผมแสดงได้ดีที่สุดในชีวิต".........จบบทความก้อชวนกันดื่มชาพร้อมกับถอดบทเรียนด้วยการสนทนาซักถามอย่างเป็นกันเอง น่าสนใจครับ




      วันนี้อาหารกลางวันเป็น "ข้าวยำ" ซึ่งเป็นฝีมือของพวกเราทุกคนครูผู้หญิงมีหน้าที่จัดเตรียมเครื่องปรุงต่างๆ เยอะมากครับ ส่วนผมครูป้อมชวนไปเก็บใบชะพลูกับดอกอัญชัญ "น้ำบูดู"  คุณแม่น้องโอเปิ๊ลเตรียมมาจากบ้าน อร่อยมากครับทั้งๆที่เพิ่งทานเป็นครั้งแรก

หลังจากอิ่มอร่อยกับข้าวยำน้ำบูดูภาคบ่ายนัดพบกับครูอ้อน ยังไม่ทราบหัวข้อแต่อยากให้เป็น Body Scan ที่สุด จะได้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกาย ครูอ้อนจัดบรรยากาศเงียบ มืด สงบ วังเวง คล้ายๆกับโรงหนัง ดูบรรยากาศครับ 

 

  

  ครูอ้อนให้ดูคลิป VDO ผลงานนักเรียนหัวข้อ "หอยเชอร์รี่โกอินเตอร์ "และคลิป VDO จากประเทศจีนเกี่ยวกับการหาวัตถุดิบที่ดีที่สุดมาประกอบอาหาร มี เห็ด หน่อไม้ ปลา หมู เห็นแล้วอยากทาน ไม่ใช่ครับไม่อยากทานมากกว่า เพราะกว่าจะได้แต่ละชนิดมารับประทานได้ต้องทุ่มเทแรงกาย แรงใจ อย่างหนักหนาสาหัสจริงๆ และสรุปสุดท้ายของถอดบทเรียนวันนี้คือการสนทนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถึงกิจกรรมใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ( ไวนะครับผ่านไปแล้ว 1 สัปดาห์ อย่างไม่รู้ตัว )

ซะโด หรือ ชะโด (ญี่ปุ่น茶道 sadō หรือ chadō ?) หรือ ชาโนะยุ (ญี่ปุ่น茶の湯 chanoyu ?) หรือพิธีชงชาญี่ปุ่น เป็นเอกลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นว่าด้วยการใช้เวลาอย่างสุนทรีย์ ประกอบด้วยการปรนนิบัติระหว่างการดื่มและการดื่มชาผงสีเขียวหรือมัทชา (matcha) การจัดการพบปะกันในวงสังคมเพื่อดื่มมัทชาได้แพร่หลายในบรรดาชนชั้นสูงนับตั้งแต่ประมาณศตวรรษที่ 14 ต้นฉบับของพิธีชงชา รูปแบบของซะโดซึ่งปฏิบัติกันอยู่ในปัจจุบัน เริ่มในครึ่งหลังของศตวรรษที่ 16 ในระหว่างยุคโมโมยามะ โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านชาคือ เซ็น โนะ ริคิว (Sen no Rikyu)
ซะโดมีลักษณะที่เป็นแบบแผน ได้พัฒนาภายใต้อิทธิพลของพุทธศาสนานิกายเซ็นซึ่งจุดประสงค์สามารถอธิบายได้ด้วยคำพูดเรียบง่าย คือเพื่อทำวิญญาณให้บริสุทธิ์โดยการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับธรรมชาติหัวใจแท้จริงของพิธีชงชาได้รับการบรรยายโดยคำต่าง ๆ เช่น ความสงบ ความเรียบง่าย ความสง่างาม และ สุนทรียศาสตร์แห่งความเรียบง่ายอันเข้มงวดและความยากจนที่ประณีต 
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
"ตอนเป็นเด็ก วันหนึ่งขณะที่ทานอาหารแม่มองมาที่ผม ผมจึงแกล้งทำชิ้นเนื้อตกพื้น แม่เห็น แม่ด่า แต่แม่ก็ยังหยิบชิ้นเนื้อขึ้นมาทาน แม่บอกว่า มันไม่ดีแล้วลูกอย่าทาน รู้ไหมทำไมผมทำแบบนั้น เพราะผมอยากให้แม่ได้ทานเนื้อบ้าง ได้อาหารดีๆ มาแม่จะให้ลูกๆทานก่อนเสมอ บ้านพวกเรายากจนมากครับ " 



โจวชิงฉือ
ขอบคุณครับ
ครูอั๋นครับผม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น